งานดูใจ การเจริญกรรมฐานนั้น พอจิตมันผ่องใส จิตมันเบาโล่งสบาย เราจะนั่งได้ทั้งวัน ขยันกำหนด ขยันเดิน ขยันภาวนา นี่คือจิตผ่องใสเกลี้ยงเกลา จิตไม่เศร้า จิตตื่นตัวเบิกบานตัวนี้ คือเราเห็นพุทธะน้อยๆ เห็นสภาวธรรมน้อยๆ ต่อมาเมื่อจิตโปร่ง ใส ไม่เศร้าหมอง จิตก็นุ่มนวล เมื่อจิตนุ่มนวล ไม่ว่าจะเดินหรือ จะคู้หรือจะเหยียดก็ดูงามตา ไม่กระโดกกระเดกเหมือนม้าดีดกระโหลก นั่นคือ เขาเรียกว่า เป็นผู้มีศีลาจารวัตรดี คือ ผู้มีศีล เป็นหลักประพฤติทั่วไป อันจะต้องรักษาและพึงปฏิบัติ ชื่อว่า วัตรอันน่าเลื่อมใส ตรงนี้พระย่อมเกิดขึ้นในใจของเรา โดยไม่ต้องบวชเป็นพระ แต่พระเกิดขึ้นในใจ ต่อมา เมื่อใจนุ่มนวลต่อการงานที่เรากระทำ คือ งานดูใจ เปรียบเหมือนเอาแว่นส่องธรรมส่องใจ ดูว่าใจเรามันเป็นอย่างไร พอใจนุ่มนวลควรแก่การงาน ใจก็ไม่หวั่นไหว ต่อสิ่งที่มากระทบ อารมณ์ที่มากระทบกับอายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตรงนี้ เรียกว่าการพิจารณาดูสภาวธรรม ที่เกิดขึ้น โอวาทธรรม จาก พระครูปทุมภาวนาจารย์ วิ. (หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท) หมายเหตุ: สามารถดาวน์โหลด รับฟังธรรมบรรยาย ในโครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ และ/หรือ ในโอกาสต่างๆ ที่หลวงพ่อและพระวิปัสสนาจารย์ได้เมตตาแสดงไว้ ในรูปแบบของไฟล์เสียง ได้ที่เว็บไซด์วัดป่าฯ ตามลิงค์ครับ...สาธุ http://www.watpacharoenrat.org/mp3.php