
ผ้าที่ดำเหมือนกับจิตที่ถูกห่อหุ้มด้วยกิเลสตัณหา เปรียบเหมือนตัวปัญญาเกิดขึ้น เราต้องอาศัยความขยันหมั่นเพียร ที่จะต้องกะเทาะเปลือกของจิตมันออก ที่มันดำอยู่นั่นนะ ต้องกะเทาะมันออกทุกวันๆมันจึงจะสว่าง พอจิตมันคิดปึ๊บ จิตกำหนดไปเห็นสภาวะของจิตที่มันดำ เห็นหัวใจที่มันดำ ที่ถูกพอกไว้เหมือนดินพอกหางหมู พอเห็นปึ๊บ ต้องทำวิธีไหน ต้องขยันกะเทาะออก คือกำหนดเข้าไป ให้มันทะลุถึงจิตถึงใจ พอกำหนดไปแวบๆ กำหนดเข้าไปดูเข้าไปในจิต ลึกๆไปเห็นแสงสว่างโล่ขึ้นมา เห็นทางที่พ้นทุกข์จิตใจชื้นขึ้นมาแล้ว พอเห็นแสงสว่าง ใจมันสบายใจมันชื้นขึ้นมา กำหนดตามเส้นสายไม่เผลอสติ เห็นสภาวะ ของจิตเกิดดับๆ พองแวบๆ เกิดดับๆ ตามอาการนั้นไป จนเกิดปัญญา ขึ้นมา เห็นผู้คนทั้งหลาย เห็นกระดูกแตกดับ รูปนามขันธ์ห้าเกิดดับๆ กำหนดทันได้ปัจจุบันอารมณ์ พอกำหนดได้ทันปัจจุบันอารมณ์ ปรากฏ ว่าภาวะจิตหลุดพ้นทันที ปรากฏว่าได้ปฏิสัมภิทาญาณพร้อมกันเลย เพราะความขยันหมั่นเพียร นั่งบริกรรมภาวนาตลอดเวลา ไม่เอาสติส่ง ออกไปข้างนอก เอาส่งเข้าในเจาะทะลุก้นบึ้งหัวใจที่มันถูกฉาบทา ใน ที่สุดได้ความรู้แตกฉานในปฏิภาณไหวพริบ โอวาทธรรม พระครูปทุมภาวนาจารย์ (หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท) จากหนังสือ “คู่สร้าง คู่สม” หน้า ๗๕ สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.watpacharoenrat.org/Krasaejai/The_happy_couple.pdf